วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Financial Planning Process : กระบวนการวางแผนการเงิน


Financial Planning Process
ได้พูดถึง กระบวนการวางแผนทางการเงิน 6 ข้อ และวิธีการวางแผนทางการเงิน


กระบวนการวางแผนการเงิน มี 6 สิ่ง คือ


ต้องเริ่มต้นจากตัวเรา
1.กำหนดเป้าหมาย Center Goals เราต้องกำหนดเป้าหมายของเรา เป้าหมายของเราอาจมีหลายเป้าหมายได้ แต่อาจจะต้องกำหนดให้ดี และครอบคลุมในทุกๆ เรื่อง

กำลัง และความรู้ของเรา
2.รวบรวมข้อมูล ทางการใช้เงิน เช่น การใช้จ่ายเงิน เงินเดือน(รายรับต่างๆ) ฐานะเราเป็นอย่างไร
3.วิเคราะห์ข้อมูล คือ เงิน(สินทรัพย์)เรามีเมื่อเทียบกับเป้าหมายของเราแล้ว เราต้องทำอย่าไร เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายให้ได้

ขั้นลงมือทำ
4.จัดการทำแผนทางการเงิน เราอาจจะวางแผนของเราเอง หรือหาผู้ช่วย(ผู้เชี่ยวชาญ)วางแผนให้
5.ดำเนินการตามแผน

Feed back Loop
6.ติดตามและทบทวน คือการที่เราตรวจสอบว่าสิ่งที่เราทำตรงตามแผนที่เราวางไว้ไหม? ทำให้เราบรรลุเป้าหมายของเราไหม? ถ้าไม่ตรงตามเป้าหมาย หรือเป้าหมายของเราเปลี่ยน เราจะเปลี่ยนแผนอย่างไร ? เราจะต้องติดตาม ทำตามแผนหรือเปลี่ยนแผนใหม่วนไปเรื่อยๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เราต้องการ

วิธีการวางแผนทางการเงิน เรียงตามลำดับและความสำคัญ

1.Wealth Creation (การสร้างรากฐานให้มั่นคง) เช่น จัดระบบการเงิน => การเก็บออม การบริหารเงินรายใช้เงินต่างๆ รวมถึงหนี้ต่างๆด้วย
2.Wealth protection (Risk Management : การบริหารความเสี่ยง ) เช่นการเตรียมเงินสำรอง การวางแผนประกัน
3.Wealth Accumulation หากเรามีเงินเหลือ จากการ protection เราก็สามารถนำมาลงทุน Invesment เพื่อให้มีเงินเพิ่มขึ้น

4.Wealth Distribution การส่งมอบเงินที่เรามีอยู่ อาจจะเป็น พินัยกรรม กำหนดผู้รับผลประโยชน์ในประกัน ฯ



ขอขอบคุณ
http://www.a-academy.net/finance/personal-finance/4-fp-process/

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

14 ก.พ. ไปเที่ยวดอยตุง ^__^

สุขสันต์วันแห่งความรักย้อนหลังนะคะ


วันนี้เราจะไปดอยตุงกันค๊าาาาา
ออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ใช้ถนนพหลโยธิน ทางไปแม่จัน - แม่สาย
จะมีป้ายบอก เลี้ยวซ้ายไปดอยตุง
ดอยตุงอยู่ห่างจากม.แม่ฟ้าหลวงประมาณ 36 กม.
ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 - 50 นาที

ออกเดินทางกันเลยยย



ขี่ขึ้นเขา ตอนแรกก้คิดนะว่าจะขึ้นได้มั้ยเนี่ยยยย
แต่ก็ผ่านมาได้ เย้ๆๆๆๆ
มาที่จุดชมวิว สวยมากเลย
ไม่ร้อนไม่หนาว อากาศกำลังดีเลย

 

แล้วก้ออกเดินทางต่อ ไปที่พระตำหนักดอยตุงกันเลย

ถึงแล้ววว ... 


ต้นตุง

ที่นี่มี 4 พื้นที่จัดแสดง คือ 
1.หอแห่งแรงบันดาลใจ
2.สวนแม่ฟ้าหลวง
3.พระตำหนักดอยตุง
4.สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง

เสียค่าเข้าชม 
สำหรับนักเรียน-นักศึกษา* และผู้สูงอายุ* 
สถานที่ละ 45 บาท
สำหรับคนธรรมดา สถานที่ละ 90 บาท
*จะต้องแสดงบัตรประจำตัว

-0- ลืมเอาบัตรประจำตัวนักศึกษามา
เลยได้จ่ายราคาเต็ม T T

วันนี้เนื่องจากมีเวลาน้อยต้องรีบกลับ 
เราจึงเลือกเข้าชม 
พระตำหนักดอยตุง และสวนแม่ฟ้าหลวง

ไปซื้อบัตรกันน

 บัตรนี้ 90 บาท

ทางเข้าชมพระตำหนัก


ตรงนี้เป็นจุดตรวจบัตร และครื่องแต่งกาย
ใครแต่งกายไม่เหมาะสม เค้าก้มีให้เปลี่ยนนะคะ

ระหว่างทางเดินเข้าชมพระตำหนัก


สวยมากเลยยยยยย ^^


แล้วเราก้เข้าไปชมด้านในกันนนนน
เสียดายข้างในพระตำหนักห้ามถ่ายรูป

เด๋วนี้เค้ามีเครื่องที่คล้ายเครื่องเล่นmp3ให้คนละชุด
เป็นเครื่องช่วยอธิบายแต่ละจุด อย่างละเอียดเลย

ข้างในสวยมากกกก
มีกลอนสอนใจที่สมเด็จย่าทรงโปรด
 และสลักไว้เพื่อเตือนใจ
ตัวอักษร ก.- ฮ. เลขไทย 0-9
สลักไว้ตามราวบันได และพนัง
ทุกอย่างแกะสลักด้วยไม้ สวยมากๆ

ชอบเพดานห้องโถ่งมากที่สุดเลย
เหมือนได้ยืนดูดาว
ตรงกลางเป็นระบบสุริยะจักรวาล
และล้อมรอบด้วยกลุ่มดาวสวยมากกกกก



สวนรอบๆ พระตำหนัก


แล้วเราก้ไปกันต่อที่สวนแม่ฟ้าหลวง







 ต้นนี้แปลกดี เหมือนมีหิมะเกาะอยู่บนใบ สวยมากเลย


 มีเขาวงกตด้วยนะ
สนุกดี ^^


 ตอนแรกคิดว่านี่คือใบโคลเวอร์
ที่เราใช้เล่นเกมเศรษฐี หรอ? 555


ดอกไม้สีสดมากกก




 จากจุดนี้จะมองเห็นพระตำหนักด้วยค่ะ
สวยมากเลยค่ะ




พอเดินสวนแม่ฟ้าหลวงเสร็จก็รีบกลับกัน กลัวมืด




ขาลงนี้ เหมือนรถไฟเหาะเลยค่ะ ต้องเบรคตลอด

กลับมาอย่างสวัดดิภาพค่ะ 555
สนุกดีค่ะ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ

ขอขอบคุณ
เพื่อนที่มานำทางให้
คนขับรถให้นั่ง
และเพื่อนๆที่ไปด้วย ^&^

วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Foundation of Financial Planning : อิสระภาพทางการเงิน (หัวข้อที่3)

ความฝัน หรือความต้องการ (Wants) ทางด้านการเงิน

Financial Freedom (อิสระทางการเงิน) คือ การที่เรามีความมั่นคงทางการเงิน และมีอิสระที่จะใช้เงิน

เงินเหล่านี้จะหาได้จากไหน?

ก่อนอื่น เราต้องมี รายได้ Income > รายจ่าย Expenses

รายได้ Income แบ่งได้ 2 ประเภทคือ
1.Active Income คือ รายได้ทั่วไปที่ได้จากงานประจำ = เงินเดือน
2.Passive Income คือ รายได้จาก ดอกเบี้ยเงินฝาก,ค่าเช่า,เงินปันผลต่างๆ ฯลฯ

ซึ่งถ้าเราตัดรายได้จาก Active Income (เงินเดือน) แล้ว 
รายได้จาก Passive Income จะเพียงพอที่จะใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ และยั่งยืน ถึงจะเรียกได้ว่า เรามี Financial Freedom (อิสระทางการเงิน)

การหา Passive Income คือการเก็บเงินทุน Asset (สินทรัพย์) เพื่อนำมาลงทุน เพื่อให้ได้ Passive Income ที่เพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น เราจะหา  Asset (สินทรัพย์) ได้จากไหน?
จะต้องมีความรู้ทางด้านการเงิน และการลงทุน ขนาดไหน?
จะวางแผนเก็บเงินอย่างไร ?

ทำอย่างไรที่จะใช้ชีวิตปัจจุบันให้มีความสุข และมีเงินเก็บด้วย?

ขอขอบคุณ
http://www.a-academy.net/finance/personal-finance/3-why-freedom/

วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สัปดาห์แรกของการเรียนปี 2 เทอม 2

เทอมนี้เรียน 6 วิชา มี

 industrial management (IM) เรียนเกี่ยวกับการจัดการอุตสาหกรรม เพื่อผลิตสินค้าให้ตรงความต้องการของลูกค้า


Data Strutures and Algorithms (DSA) เรียนเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากๆ เรียนเขียนโค๊ด วิชานี้ อ.พูดถึงเรื่องของ Bigdata ด้วย


Low for IT จากชื่อวิชาก้ต้องเรียนเกี่ยวกับกฎหมายแน่นอน ^^ 


Asean เรียนพื้นฐานอาเซียน ทั่วไป


Organization and management (OM) ของสำนักการจัดการ ถ้าเดาไม่ผิดน้าจะเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการ องค์กร 


วิชาสุดท้าย Databases Systems (DS) วิชานี้ต้องทำโปรเจคกับร้านขายของจริงๆ 'o' 


ส่วนมากเทอมนี้เรียนเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ทั้งเรื่ององค์ประกอบ การจัด การบริหาร และเก็บข้อมูล 


สัปดาห์แรกของการเรียนก็

ก็ไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ ส่วนมาก อ. จะแนะนำตัว ให้ซื้อหนังสือ และก็พูดเกี่ยวกฎการเรียน คะแนน กับพูดเข้าเนื้อหานิดๆหน่อยๆ

เทอมนี้ก็น่าจะผ่านไปได้นะ ^^ 


ขอให้ผ่าน สาธุๆๆๆ