สัปดาห์ที่โชคร้ายที่สุดเลยยยย

สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ที่โชคร้ายที่สุดเลยยยย

โทรศัพท์หายยยยย
โอ้ยเครียดดดดดดดดด


วันถัดมาก็ต้องสอบอีก
แนวข้อสอบก็อยู่ในโทรศัพท์

TT^TT

I I   I I

I I   I I

มีอะไรจะโชคร้ายกว่านี้มั้ย ?? 

ก่อนหน้านี้ได้ SMS ดูหนังฟรี ที่ Major 1 เรื่อง
กะว่าสอบเสร็จจะไปดู แต่โทรศัพท์ดันหายยยยย

ก็ต้อง อด ดูสินะ 

เอาหน่าาา เด๋วก็ได้กลับบ้านละ 
ขออย่าให้มีอะไรที่โชคร้ายกว่านี้อีกเลยยยย

<3<3<3 ^ ^ <3<3<3

Final Exam ปี 2 เทอม 1

เข้าสู่ช่วงสอบ ปลายภาคแล้วววว  ^o^

วันนี้สอบวันแรกกก 
ผ่านไป 1 วิชา
ถือว่าทำได้ดี 55555

เหลืออีก 5 วิชาาา ~ 
กับ ส่งโปรเจค อีก 1 โปรเจค

สู้ ๆ ต่อไป *u*

อีก 15 วันก็ได้กลับบ้านนแล้วววว  เย้ๆๆๆๆๆๆ 

Why financial Planning : Needs ( หัวข้อที่ 2 )

สรุปหัวข้อที่ 2 ทำไมต้องวางแผนทางการเงิน Why financial Planning ? : ความจำเป็น Needs

สิ่งที่ทุกคนมี คือ ความจำเป็น Needs และความฝัน Wants
ความจำเป็น Needs : ทุกคนต้องมีการใช้เงิน เพื่อซ้ือของใช้ - กินในชีวิตประจำวัน
ความฝัน ความต้องการ Wants : ความอยากรวย อยากมีเงินฯ

Needs เงินที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน : ได้มาจากไหน ? จะใช้พอไหม ? 
ต้องมีเท่าไหร่ ? 
ส่วนมากแล้ววัยทำงานเราจะมีโอกาสเก็บเงินได้มากที่สุด 
และเมื่อเราเกษียณอายุแล้วเราจะมีเงินพอใช้ ? 
แล้วเราต้องเก็บเงินเท่าไหร่ ? ถึงจะพอสำหรับชีวิตหลังเกษียณ

โดยทั่วไปแล้วผู้สูงอายุจะใช้เงินประมาณ 50,000 บาท/ เดือน
ดังน้ัน 1 ปี ก็จะใช้เงินประมาณ 600,000 บาท
ต้องการมีเงินใช้อีกประมาณ 20 ปี หลังเกษียณ
ดังน้ัน จึงต้องมีเงินเก็บสำรองไว้ประมาณ 12 ล้านบาท ในชีวิตหลังเกษียณ


แต่ เงินที่เก็บสำรองไว้ประมาณ 12 ล้านบาท จะพอหรือ ? 
เมื่อมี Inflation ( เงินเฟ้อ ) ซึ่งจะทำให้ของแพงขึ้น
ถ้าเราสังเกตุราคาสินค้าจากอดีต จนถึงปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ราคาสินค้านั้นจะสูงขึ้นเรื่อยๆบางอย่างเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

ดังนั้น  จึงทำให้เงินที่เราเก็บจึงต้องเพิ่มขึ้น 
ถ้ากะไว้ว่าเพิ่มเป็น 2 เท่า เราก็ต้องมีเงินเก็บเพิ่มเป็น 24 ล้านบาท

แล้ว 24 ล้าน จะหามาจากไหน ? 

- หาจากการประหยัดเก็บเงิน ขยันทำงาน

ในวัยทำงานเรามีเวลาเก็บเงินตั้งแต่เริ่มทำงานอายุ ~ 22 - 60 ปี คิดเป็น ~ 38 ปี
ถ้าเราเก็บเงินทุกเดือนตั้งแต่เดือนแรกที่เริ่มทำงาน จนเกษียณอายุ
เก็บเงินเดือนละ 10,000 บาท x 12 เดือน x 38 ปี =  4,560,000 บาท

4,560,000 บาท จากการทำงาน ก็ยังไม่พอสำหรับชีวิตวัยเกษียณ

- จากการพึ่งรัฐบาล

ในปัจจุบันรัฐบาล ต้องเจอกับปัญหา Agindg Population คือภาวะที่มีคนแก่มากกว่าคนหนุ่มสาว ซึ่งนั่นแปลว่า การที่รัฐบาลเก็บภาษีจากคนหนุ่มสาว เพื่อไปช่วยเหลือคนแก่ ก็ยิ่งทำได้ยากขึ้น
และอาจจะไม่พอ

          - ประกันสังคม เงินที่ได้รับสูงสุดจะประมาณ 7,000 - 8,000 บาท 
          - เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 600 700 800 1000 บาท ตามอายุซึ่งถือว่าน้อยมาก


นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าอายุมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น Life Expectancy 
ซึ่งจะทำให้เราใช้เงินหมดก่อนคาดอีกด้วย 

สรุป  ดังที่กล่าวมาแล้วนั้นเราจึงต้องมี ความรู้ทางการเงิน ( Financial Literacy ) เพื่อเป็นอีกช่องทางที่จะเพิ่มมูลค่าของเงินที่เรามีอยู่ให้มากขึ้น เช่น การลงทุน , ซื้อหุ้น เป็นต้น และสามารถจัดการกับเงินที่เรามี เพื่อให้พอกับความต้องการ


ขอขอบคุณ
http://www.a-academy.net/finance/personal-finance/2-why-needs/

พื้นฐานการวางแผนการเงินส่วนบุคคล ( หัวข้อที่ 1 )

สรุปหัวข้อที่ 1 การวางแผนทางการเงินคืออะไร? 

ทุกคนที่เกิดมาต่างก็อยากมีความสุข 
แล้ว อะไรบ้างหล่ะ ที่จะทำให้เรามีความสุข

การมีสุขภาพดี มีครอบครัวที่ดี มีสังคมเพื่อนฝูงดีสิ่งแวดล้อมดี 
มีการงานดี และสุดท้ายมีเงินดีใช้จ่ายได้ตลอด

แน่นอนว่าก่อนจะมีเงินก็ต้องเก็บเงิน 
ดังนั้น จึงต้องมีการวางแผนทางการเงิน

การวางแผนทางการเงินคือ 
1. Goals เราต้องมีเป้าหมายเป็นศูนย์กลาง เพื่อที่จะวางแผน
2.Current Status เราอยู่ที่ไหน ? เรามีอะไร ความรู้ ประสบการณ์ 
เราต้องรู้ว่าตอนนี้เรามีเงิน มีความรู้ มีประสบการณ์ อะไรบ้าง ?
3.Actions คือ หนทางที่เราจะไปถึงเป้าหมาย เราต้องทำอะไร ? อย่างไรบ้าง ? เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายของเรา เช่น อยากมีเงินก็ต้องเก็บเงิน ต้องเก็บเท่าไหร่ อยากได้กำไรก็ต้องลงทุน ลงทุนเท่าไหร่ ฯลฯ



ขอบคุณ
http://www.a-academy.net/finance/personal-finance/1-what-is-fp/

วันว่างงงงง

หลังจากที่ ไม่มีเวลาพักเลยยยย

เสาร์ - อาทิตย์ นี้ก็ว่างแล้วววววว 5555555555

หยุดทั้งที่ ขอไปเที่ยวหน่อยยย

ไปไหนดีน๊าาาาาา  ~

เสาร์นี้ไปดูหนังดีกว่าาาา  The Hunger Game : Mocking jay - Part 1 เพิ่งเข้าพอดี

กิน KFC ด้วยยยยย ไปเดินถนนคนเดินด้วยยยยย



พอถึงวันเสาร์

9.30 น. ตื่นนนแล้วววว~ 

-------- นั่งเล่นเกมโทสัพ นอนเล่น เล่นเฟส ฟังเพลง ชิวมากกกก 5555 -------- 

11.30 น. อาบนำ้ แต่งตัว

 ------- หาอะไรกิน นั่งดู คลิปใน youtube ---------

13.00 น. ออกเดินทางไป เซนทรัน ^_____^

ใช้เวลา 35 นาทีก็ถึงแล้วววว

14.50 น. ไปจองที่นั่งงงงงง

**** คนเยอะมากกกกกกกก เกือบไม่มีที่นั่ง จองรอบ 15.30 น. Soundtrack ด้วยยย ****

จองเสร็จแล้ว ก็ไปกิน KFC  อิ่มมมมม มากกกก เลยยยยยย

แล้วก็ขึ้นไปดูหนัง หนังจบก็ประมาณ 18.30 น.ละ 

หนังสนุกมากเลย อยากดูอีกสักรอบแต่ไม่มีตังละ 555

" IF WE BURN YOU BURN WITH US " ชอบประโยคนี้มากเลย

รอดูภาคต่อไปปปปป


แล้วก็ไปเดินถนนคนเดินนนนน

ถนนคนเดินที่นี่ยาวมากกกกกกก คนเยอะมากด้วย

แต่ก็เดินหมดครบทุกเส้น 555555 

ได้ของกินมา 2-3 อย่าง ก็พอใจละ 55

ที่นี่เค้ารำวงด้วยยย (เค้าอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม ดีมากเลย) 
ถ้าอยู่อุดรคงจะเหมือนงานทุ่งมั้ง

ไปทีไรก็มีทุกครั้งเลย เด๋วถ้าไปอีกจะถ่ายรูปมาให้ดู 

แล้วก็กลับบ้านนนนน อย่างมีความสุข ^___________^

การเขียน Essay

หลังจากที่ สัปดาห์ก่อนได้เรียนเรื่อง การเขียน Essay

วันนี้เลยจะมาสรุปที่เรียนมา เพื่อความเข้าใจ และสามารถนำไปเขียน Essay ได้

การเขียน Essay 
Essay ประกอบด้วย 5 paragraph

1.Introduction ( Topic sentence ) จำนวน 1 parpgraph ส่วนหัว/คำนำ 
     1.1.Hook การเกริ่นนำ ให้เป็นที่น่าสนใจ และน่าอ่านต่อ
     1.2.Brackground การเริ่มดึงเข้าสู่เนื้อหาที่จะพูดถึง บอกความสำคัญของสิ่งที่จะพูดถึง
     1.3.Thesis Statement คือการพูดถึง หัวข้อ ที่เราจะพูดถืงในเนื้อหา ว่ามีอะไรบ้าง
2.Body (supporting sentence) จำนวน 3 parpgraph คือ การพูดถึงเนื้อหาของ Essay ซึ่งต้องนำ หัวข้อจาก introduction มาขยายความ โดยต้องมี
     2.1.Topic sentence (major details) คือ การกล่าวถึง main idea ของหัวข้อที่จะพูดถึง
     2.2.Supporting sentence (minor details) 2-3 sentence คือ การเขียนสนับสนุน Topic sentence หรืออธิบาย main idea ให้รายละเอียดต่าง ๆ ยกตัวอย่าง เหตุผลมาสนับสนุน
     2.3.Concluding sentence คือ การสรุป major and minor detail ที่กล่าวไปแล้วอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการย้ำว่าเราพูดอะไรไปบ้าง

3.Conclution Paragraph จำนวน 1 paragraph คือการเขียนสรุป main idea of paragraph ของแต่ละ supporting ideaว่า มีอะไรบ้่าง

^ _______ ^ ไปเขียน Essay ละ

ขอขอบคุณหนังสือเรียน Eng 2

งานบายเนียร์ 2014

** ก่อนอื่นเลย ต้องขอโทษที่ส่ง blog ช้านะคะ
น้องขอโทษ  ( " /\ " ) อย่าหักตังน้องเลยนะ
น้องไม่อยากกินมาม่า แม่บอกว่ามาม่าไม่มีประโยชน์ T T

เข้าเรื่อง

เมื่อวานเป็นงานบายเนียร์

ซึ่ง ธีมงานคือ " Casino "

Step 1 : เลือกชุด

โทรปรึกษาพี่เมล์ เจ้บอกใส่ชุดอะไรก็ได้ที่เซ็กซี่ ๆ อ่ะ
( ซึ่งเธอ บ่มีเลยอ่ะ ) - -"
Ok, เลิกคุยไปเลย
---------------------------------------------------------------
หลังจากที่หาข้อมูล มาแล้วก้มาหาชุดใส่

55 เสื้อผ้าเต็มตู้เลยเเต่หาชุดใส่ไปงานนี้ ยากจิง ๆ
ที่จริงก็อยากได้ชุดใหม่นะคะ แต่ติดตรงที่ว่าไม่มีตัง 55
ไม่เป็นไรมีชุดไหนก็ใส่ชุดนั้นละกันนน

คุณเพื่อนรูมเมท ก็มาช่วยเลือกด้วย
และในที่สุด เราก็เลือกชุดได้

เย้ ๆ ๆ ๆ ๆ

Step 2 : เลือก เครื่องประดับ

เข้าไปเล่น คาสิโน ก็ต้องรวยสินะ ( คิดไปเอง )

ใส่ไรดี ??????? สร้อยคอ

ไปเดินกาด (ตลาด/ถนนคนเดิน) , ไนท์บาร์ซ่า
สร้อยสวย มากกกอ่ะ แต่ก็แพงอยู่ดี ตั้ง 200, 300  บาท
กลับมาหาอยู่บ้านใส่ดีกว่า


ชุดสีดำ มีแต่สร้อยสีดำอ่ะ

อยากได้สร้อยที่ตัดกับสีชุดจัง

อ่ออออ นึกออกละ กำไรเขนสีขาว กับสีฟ้า
เอามาลองต่อกันดีกว่า

ไปถามเพื่อน :
I : เป็นไงมั่งอ่ะ 
มัส : ก็ดีนะ
พิมพ์ : เค้าว่ามันไม่เข้าอ่ะ
I : ok , ไม่ใส่ดีกว่าอ่ะ
------- จบไป --------

มัส : เสื้อคลุมไง ที่มันมีขนๆ อ่ะ
I : อ่อออ 

ขอขอบคุณพี่ทิพย์นะคะ ที่ให้เสื้อตัวนี้มา

I : ok ,  มี อันนี้แล้วก็คงไม่ต้องใส่สร้อยแล้วหล่ะ

Step 3 : ร้องเท้า

อันนี้ไม่ซื้อคงต้องใส่คัชชูนักศีกษาไปแน่เลย 55

ออกไปดูร้านรองเท้า หน้า ม. ละกัน

ก็เลยได้รองเท้า มา 1 คู่ 200 บาท
สีชมพูเชียว 555

ขอขอบคุณพี่เมล์นะคะ ที่บอกว่าจะจ่ายค่ารองเท้าให้ ^ ^

 Step 4 : ทุกอย่างครบ เหลือทรงผม กับหน้า

พิมพ์ ,มัส : เด๋วหาให้ 
มุกทำผมลอนนะ ละก็ เก็บผมไปข้่างหลัง
อย่างงี้  ๆ ๆ !@#$%^&*(#@(*&^%$#...
I : ok , ตามน้ัน 555

----- ผม ผ่านไป ----- เหลือแต่งหน้าสินะ -----

ต้องแต่งเองแล้วสินะ คุณเพื่อนรูมเมทก็ไม่มีใครแต่งหน้าเป็นซักคน

ดู คลิป สอนแต่งหน้า ดีกว่าา ...........

.........
.........
......... ( 2 ชม. ผ่านไป ไวเหมือนโกหก )

อ้ากกกกกกก ! แต่งไม่เป็นนนนน

ok , ได้แค่ไหนเอาแค่น้ัน 555

เย้ ๆ ๆ แต่งตัวเสร็จแล้ววว ( กว่าจะเสร็จ )




งานนี้ต้องขอขอบคุณ 

คุณเพื่อนรูมเมท( มัส, พิมพ์) พี่ทิพย์ และพี่เมล์

ขอบคุณค่ะ

Casino

สัปดาห์หน้ามีงานเปิดสายยยย

ธีมงาน Casino 

โอ้!!!!!!! จะหาชุดอะไรใส่ดี T T

หาข้อมูลหน่อยละกัน เผื่อจะมีไอเดีย



Casino (กาสิโน หรือคาสิโน)

Casino มาจาก ภาษาอิตาลี แปลว่า ( casa = บ้าน ) บ้านพักหลังเล็กที่ใช้พักผ่อนหย่อนใจ และต่อมาได้ใช้เป็นสถานที่ที่เล่นการพนัน ปัจจุบันมีคาสิโนมากกว่า 4,750 แห่งทั่วโลก 

Casino เป็นสถานบันเทิงที่มีการพนันเป็นกิจกรรมหลัก และส่วนมากจะมีโรงแรม ,ร้านอาหาร ,ห้างสรรพสินค้า หรืออยู่ในสถานที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยว

เมืองที่มีชื่อเสียงด้าน Casino คือ เมืองมอนเตคาร์โล ในโมนาโค ,ลาสเวกัส และแอตแลนติกซิตี้ ในสหรัฐอเมริกา ,กัมปีโอเนดีอิตาเลีย ในอิตาลี ,มาเก๊า ในจีน

มอนเต้คาร์โล ,โมนาโค

ลาสเวกัส

กัมปีโอเนดีอิตาเลีย ,อิตาลี

มาเก๊า ,จีน

การแต่งกาย

ชุดสุภาพ รองเท้าหุ้มส้น กระเป๋าใบเล็กสามารถนำเข้าไปได้

แต่ถ้าเป็นกระเป๋าใหญ่จะมีจุดรับฝากกระเป๋า

Ok ชุดหาได้ละเเต่ไม่มีรองเท้าอ่ะ  

คงต้องใส่คัชชูสินะ T T

ขอบคุณ

http://th.wikipedia.org/wiki/กาสิโน
http://www.changimuseum.com/แต่งกายเข้าคาสิโนที่ต่/
https://luckyclub222.files.wordpress.com/2013/04/031021-031.jpg?w=300&h=199
http://paow007.wordpress.com/2010/08/09/10-ทริปเด็ดสำหรับแฟนพันธ/
http://funsblend2.blogspot.com/2013_08_01_archive.html

เข้าสู่ช่วงสอบมิดเทอม

สัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้า เป็นช่วงสอบมิดเทอม

เมื่อวาน สอบไปแล้ว  1 วิชา 

เหลือต้องสอบอีก ตั้ง 5 วิชา T0T

เมื่อวานสอบวิชา Math Logic

เป็นข้อเขียนทั้งหมดเลยยยยย

มีทั้งหมด 9 ข้อ 90 คะแนน (เก็บ 45 คะแนน)

ก็ทำได้อยู่นะ แต่ว่าที่รู้ๆ คิดผิดไปข้อนึง 

T T  เสียดายอ่ะข้อง่ายด้วย

แล้วข้ออื่นจะคิดถูกป่าวเนี่่ย (เครียดดดดด)

แต่ก็ทำไรไม่ได้ละออกจากห้องสอบแล้วหนิ

จะจำไว้เป็นบทเรียน ( วันหลังต้องดูให้ดี ๆ ^____^ )

วันนี้ว่าง 1  วัน อ่านวิชาต่อไป

พรุ่งนี้สอบวิชา Econ เศรษฐศาสตร์ 

กำลังอ่านรอบที่ 2 อยู่ เก็บรายละเอียด 555 

แต่ก็นะ เฮ้อ!! ชีทเป็นภาษาอังกฤษ ต้องแปลเป็นไทย 

แล้วมาแปลไทยเป็นอังกฤษด้วยความเข้าใจของตัวเองอีกที 

เน็ตหอก็ไม่ดี จะหาอ่านเวอร์ชั่นไทยใน google ก็ไม่ได้ T T

ไปอ่านหนังสือต่อละ ... บ๊ายยยยยยย

เพลงที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก

ถ้าคิดถึงเพลงที่คุณร้องได้ทุกคนทั่วโลกสามารถร้องได้ 

.

.

.

ร้องบ่อย 

.

.

. 

ร้องทุกปี

.

.

. 

ไม่ได้ดังขั้นออกอัลบั้ม

.

.

.

บางคนอาจคิดว่าเป็นเพลงชาติ

.

.

.

เพลงที่ศิลปินดังๆเป็นคนร้อง

.

.

.

แต่จริงๆ แล้วเพลงที่ทุกคนสามารถร้องได้ทั่วโลก คือ

.

.

.

"เพลง Happy Birthday"

เพลง Happy Birthday เป็นเพลงที่ใครๆก็ร้องได้ เป็นเพลงยอดนิยม และคนทั่วไปรู้จักมากที่สุด
เพราะ เพลงนี้ร้องง่าย สั้นได้ใจความ และความหมายดี 

เพลง Happy Birthday เป็นเพลงที่เราใช้ร้องในวันเกิดเพื่ออวยพร แสดงความยินดีกับเจ้าของวันเกิด 

ซึ่งกินเนสบุคได้ระบุว่าเพลงนี้เป็รเพลงภาษาอังกฤษที่มีการร้องบ่อยที่สุดในโลก ผู้แต่งทำนองเพลงนี้คือ พี่น้อง Patty Smith Hill และMildred Doris Hill ชาวอเมริกันจากรัฐเคนทักกี้ ทั้งสองคนเป็นครู ซึ่งตั้งใจจะแต่งเพลงสำหรับทักทายนักเรียนในชั้น เนื้อเพลงมีอยู่ว่า

Good morning to you

Good morning to you

Good morning, dear children

Good morning to all

ซึ่ง Patty Smith Hill เป็นผู้แต่งเนื้อเพลง ส่วน Mildred Doris Hill เป็นผู้แต่งทำนอง ต่อมาก็ได้ถูกพิมพ์ลงหนังสือเพลง "Song Stories For The Kindergarten" แต่การเปลี่ยนเนื้อร้องเป็น Happy Birth day นั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนแต่ง เพลง Happy birth day ถูกจดลิขสิทธิ์โดย Summy Company ในปี 1935 และจะหมดอายุในปี 2035 ในปี 1990  Warner Music ได้ซื้อบริษัท Summy Company ในราคา 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Warner ระบุว่าการเล่นเพลงนี้ในสาธารณะถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

ขอบคุณ

http://km.lib.kmutt.ac.th/index.php/cops/14-2011-04-16-10-08-15/177-happy-birthday

http://www.kroobannok.com/blog/8906

http://www.ความรู้รอบตัว.com/ที่สุดในโลก-ความรู้รอบ/รู้ไหม-เพลงใดนิยมมากที่.html

http://th.wikipedia.org/wiki/วันเกิด

Sydney Opera House

โรงอุปรากรซิดนีย์ หรือ ซิดนีย์โอเปราเฮาส์ ( Sydney Opera House)

วันก่อนต่อจิ๊กซอ3D sydney opera houes 

ตื่นเต้นๆ ต่อจิ๊กซอ3D ครั้งแรก

บนกล่องเขียนว่า

สำหรับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป ความยากระดับ 4 มี 175 ชิ้น

มีกระดาษ 8 แผ่น ^0^

นั่งต่อจิ๊กซอ3D มันยากอ่ะ ^0^ 

ทั้งทำขาดโน่นนี่ ต้องหากาวมาติด 5555

แต่ก็ผ่านไปได้

เสร็จแล้ว ดีใจอ่ะ สวยงาม
=^_______^=

เหมือนมากกกกกกก 555

รึคิดไปเอง

หาความรู้เกี่ยวกับโอเปร่าเฮาส์ เพิ่มนิดนึง

โอเปร่าเฮาส์ ถูกออกแบบโดย สถาปนิก ชาวเดนมาร์ก ยอน อุตซอน ตั้งอยู่บริเวณ ปากอ่าวซิดนีย์ นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2550 องค์การยูเนสโกประกาศให้โรงอุปรากรซิดนีย์ เป็นมรดกโลก 

Sydney Opera House เป็นศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติของประเทศ ออสเตรเลีย เป็นสัญลักษณ์ของ เมือง ประเทศ และทวีป เป็นศิลปะการออกแบบ ด้วยชุดคอนกรีตสำเร็จรูปขนาดใหญ่ มันเป็นหนึ่งในอาคารสัญลักษณ์ ที่ยิ่งใหญ่ ของศตวรรษที่ 20 ตัวโอเปราเฮาส์ ตัวอาคารสร้างทอดยาวยื่นลงไปในน้ำติดกับท่าเรือเบนนีออง มีลักษณะคล้ายเปลือกหอย 3อันวางซ้อนกันตัวโรงละคร มีความสูง 183 เมตร จุดที่กว้างที่สุดมีความยาว 120 เมตร และเสาเข็ม ฝังเข้าไปในดินมีความลึกถึง 25 เมตร
ภายใน ประกอบไปด้วย 
โรงแสดงคอนเสิร์ต : 2,679 ที่นั่ง และมีไปป์ออร์ แกนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โรงอุปรากร : 1,547 ที่นั่ง โรงละคร : 544 ที่นั่ง เพลเฮาส์ : 398 ที่นั่ง โรงภาพยนตร์ : 364 ที่นั่ง และ อื่นๆ ประกอบด้วย สตูดิโอ สำหรับซ้อม 5 ห้อง ภัตตาคาร 4 ร้าน 6 บาร์ จุดชมวิว ฯลฯ 



ขอบคุณ
http://www.holidaythai.com/Australia-Attractions-2901.htm
http://www.ecarddesignanimation.com/home/travel-sydney_opera_house-t.php
http://th.wikipedia.org/wiki/โรงอุปรากรซิดนีย์

Pizza By Mookkiie

อาทิตย์นี้ทำพิซซ่ากินเองค๊าาาาา ~
มันอยากกินอ่ะ แต่เปลืองตัง "ลองทำกินดีกว่า"

วันนี้จะมาสอนทำ Pizza By Mookkiie แบบง่ายยยมากกกกกค๊าาาาา

ส่วนผสม
1.ขนมปัง แผ่น อะไรก็ได้ รักสุขภาพก็โฮวีท

2.ซอสทำสปาเก็ตตี้ คือคิดว่ามันน่าจะแทนกันได้

3.มะเขือเทศ
4.สับปะรด
5.เชสด้าชีส หั่นเส้นๆ ( ที่จริงเค้าใช้มอสซาเรล่าชีส จะได้ยืดๆ)
6.แฮม หั่นเส้นๆ

7.เนย

ขั้นตอนการทำ
1.เรามี ขนมปังแผ่น (ถ้าอยากได้เเป้งบางก็เอาแก้วกลิ้งๆ ให้แบนๆ)

2.ทาซอส สปาเก็ตตี้ ลงบนขนมปังค่ะ

3.วางส่วนผสมที่เหลือลงไป (มะเขือเทศ,สับปะรด,เชสด้าชีส,แฮม)

4.ทาเนยลงบนจานที่จะอบ และวางPizzaของเราลงไป

5.ใช้เวลาอบประมาณ 15 นาที ไฟประมาณ 220 องศา

  

6.น่าตาของ Pizza By Mookkiie 

น่ากินหล่ะสิ 555

^ ________ ^

มันอร่อยมากกกก  ^ o ^

Green Apple

แอปเปิ้ลเขียวววว

แอปเปิ้ลเขียวผลไม้แห่งการลดนำ้หนัก เพราะแอปเปิ้ลเขียวมีนำ้ตาลน้อยกว่าแอปเปิ้ลสีอื่น 

เป็นนำ้ตาลโมเลกุลเดี่ยว คือนำ้ตาลฟรักโทส ซึ่งนำ้ตาลฟรักโทสจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานอย่่างช้าๆ ทำให้ร่างกายไม่รู้สึกหิว และทำให้ระดับนำ้ตาลในเลือดค่อยๆ เพิ่มอย่างสมำ่เสมอ 

จึงเหมาะกับคนที่เป็นเบาหวาน

และแอปเปิ้ลเขียวยังมีกากใยที่ชื่อว่า"เพคติน"จากเนื้อ และเปลือกแอปเปิ้ลอีกด้วย 

ซึ่งมีคุณสมบัติพองตัวได้มาก เพื่อช่วยให้อวัยวะในการขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น 

ช่วยลดอาการท้องผูก ท้องเสีย

และเพคตินยังช่วยดักจับคอเลสเตอรอลอีกด้วยยยย

แอปเปิ้ลเขียวจะให้สารพวกคาโบไฮเดรตและวิตามินซีเป็นหลัก 

แอปเปิ้ลเขียว 100 g. ให้พลังงานประมาณ 52 kcal. 

วิตามินซี และเบต้าแคโรทีนในแอปเปิ้ล จะช่วยป้องกันหวัด และโรคเลือดออกตามไรฟันได้

แอปเปิ้ลเขียวยังมีกรดผลไม้ ช่วยควบคุมการอยากอาหาร ช่วยรักษาระดับโปรตีนไม่ให้ต่ำลง 

และช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันถูกดึงมาเก็บสะสมในร่างกายอีกด้วยยย

**หากต้องการลดน้ำหนักให้กินแอปเปิ้ลเขียวเป็นมื้อเย็น**

ขอบคุณ

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000039303

http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=59945

http://www.fewfat.com/article/กินอย่างไรให้ผอม-ตอนที่-4-แอปเปิ้ลเขียวในมื้อเย็น

http://www.lovefitt.com/calories-monitor/แอปเปิ้ลสุดยอดผลไม้เพื่อการลดน้ำหนัก/